วันพุธที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

คนมีน้ำใจ




ณ ห้องของชาติ  หนุ่มโสดรักสนุก  ในตอนนี้มีเพื่อนๆร่วมตั้งวงยกแก้วกันอย่างครื้นเครง  ต่างคนต่างกำลังกึ่มๆได้ที่จากฤทธิ์ของเหลวในแก้วบวกระยะเวลาเป็นชั่วโมงสองชั่วโมงที่มานั่งกระดกกัน
“มึงไม่ชวนไอ้โอมาด้วยวะชาติ”เสียงใหญ่ๆของบิ๊กเอ่ยถามเพื่อนร่วมก๊งด้วยความสงสัยเพราะปกติชาติไปไหนโอไปด้วย  เรียกได้ว่าติดกันอย่างกับเงาเลยก็ว่าได้
“ชวนแล้วมันไม่มาว่ะ  ติดงาน  ก็งี้แหละนะเพิ่งผ่านโปร  พี่ชัยแกเลยใช้เอาๆเลย”
“กูว่าไม่ใช่ม้างงง  ปกติพี่ชัยแกเนี๊ยบจะตายไม่ค่อยใช้ใครหรอกถ้าไม่จำเป็นเด่ยวงานแกจะบกพร่อง  พี่ชัยแกกลัวอะไรรึเปล่าถึงได้โยนงานให้ไอ้โอแล้วรีบกลับบ้านน่ะ”ชายตัวผอมสูงพูดเกริ่นจนเพื่อนร่วมวงอดสงสัยไม่ได้
“มึงรู้อะไรมาวะไอโก้  ไม่เห็นมาเล่าให้พวกกูฟังบ้างเลย”ชาติถาม  ไม่เข้าใจกับคำพูดเพื่อนคนนี้นัก  ไม่รู้ว่าเพราะเมาหรือเพราะมันพูดงงกันแน่
“ก็ก่อนที่ไอ้โอมันจะเข้ามาเกือบๆเดือนไง  ที่พี่ชัยแกลาป่วยไปพักนึงน่ะ”
“เออ  ทำไมวะ  กูยังสงสัย  ปกติแกไม่ค่อยลา  ตอนนั้นเล่นลาไปเป็นอาทิตย์เลย”
“ก็นั่นแหละ  กูไปกินกับพี่ยามหน้า บ. มาแล้วเขาเล่าให้ฟังว่าแกดันออกจากออฟฟิตค่ำน่ะ”
“อ่าวเชี่ย!!!”ชายร่างล่ำไว้ผมรองทรงถึงกับอุทาน  วางแก้วในมือลงแทบสร่างเมา “แบบนี้ก็โดนสิวะ”
“โดนอะไรวะไอต่อ”บิ๊กถาม  สงสัยในอาการตื่นตกใจของเพื่อนร่วมวงทั้งสาม
“เรื่องที่ชั้นสามไงไอบิ๊ก  มึง ลืมแล้วเหรอว่าถ้ากลับบ้านช้าจะเป็นยังไง”โก้พูดไปก็หันซ้ายหันขวาไปเหมือน กับจะเช็คว่ามีคนอื่นมาแอบฟังรึเปล่าถึงค่อยๆทำท่ากระซิบแต่เปล่งเสียงกรอก หูเพื่อนด้วยอารมณ์กวนตีน “ตามถึงบ้าน  หลอนทั้งคืน  เป็นกูกูไม่ใช่แค่ลาป่วยนะ  กูลาออกไปแล้ว”
“เออ  เหี้ยละ  ไอโอ  กูก็ลืมสนิทเลยเวรเอ้ย!!!”ชาติตบหัวตัวเองอย่างนึกเคืองที่เรื่องสำคัญแบบนี้ดันไม่ได้บอกน้องใหม่เอาไว้  เขาเคยบอกเตือนๆไว้แค่ว่าอย่าอยู่เย็นมาก  ไม่ได้บอกอะไรที่ลงลึกกว่านั้นเอาไว้เลยสักนิด
“...”ทั้งวงเงียบกริบ  หันมามองชาติเป็นตาเดียวก่อนที่ต่อจะพูดทำลายความเงียบขึ้น
“ถ้ามึงจะโทรบอกไอ้โอเรื่องนี้พวกกูไม่อยู่นะ”หนุ่มล่ำเอ่ยอย่างรู้ใจเพื่อน
“เป็นอะไรของพวกมึงอีกล่ะ”
“เกิดเขาตามมันมาด้วยพวกกูก็โดนด้วยสิวะ  แล้วมึงคิดเหรอว่าถ้าไอ้โอรู้มันจะกลับห้องไปนอนสบายใจเฉิบน่ะ  ยังไงมันก็ต้องมานี่แน่”
“...”
ชาติฟังเหตุผลเพื่อนก็พูดไม่ออก  ต่อพูดมีเหตุผล  และเขาก็ยังไม่อยากจะเจออะไรแปลกๆในห้องตัวเองด้วย
“เงียบทำเชี่ยไรล่ะขนลุกหมด  เอ้าชนๆๆ  สนุกของเรากันดีกว่าเว่ย”โก้ยกแก้วขึ้นทำลายบรรยากาศตึงเครียดให้เพื่อนร่วมก๊งยกแก้วชนและร้องรำทำเพลงกันต่ออย่างสนุกสนาน 
แต่ความสนุกก็อยู่ได้ไม่นานเท่าไหร่นักเมื่อโทรศัพท์ของต่อดังขึ้น
ตรู๊ดดดดด  ตรู๊ดดดดด  ตรู๊ดดดดด 
“เฮ่ยๆๆๆ  พวกมึงเงียบๆ!  เมียกูโทรมา”
“เมียหรือแม่วะเชื่อฟังกันจัง  ฮู่วววว”
“ชู่วววว  กูขอล่ะ  รับสายก่อน”ต่อตัดบทเพื่อนๆก่อนจะกดปัดหน้าจอรับสาย “ฮัลโหลว่าไงมิ้น...เป็นอะไร  ใจเย็นๆไม่ต้องด่าพี่ก็ได้...เออๆๆพี่กลับแล้วๆ  รอแป็บนะเดี๋ยวรีบไป”
“อะไรวะ  เมียตามเหรอ”ชาติถามเพื่อนแบบเซ็งๆเพราะรู้ดีว่ากับไอ้ต่อ  ท่าน ผ.บ.ที่บ้านเป็นใหญ่ที่สุดในสามโลก
“เออ  แม่งเร่งให้กูรีบกลับชิบ  เอาเป็นว่ากูกลับเลยละกันเดี๋ยวมันโทรมาจิกกูอีก”
“เฮ่ยเดี๋ยวๆ  ไหนๆมึงก็จะกลับละชนกันก่อนๆ  หมด แก้วนี้กลับได้”โก้ตัวชงยกแก้วขึ้นอีกครั้งเรียกร้องให้เพื่อนทั้งวงต้อง หยิบแก้วมากระแทกใส่กันก่อนต่างคนต่างกระดกอย่างเมามันรวดเดียวหมด  “ฮู่ววววว  ต้องอย่างนี้สิวะ  สุดยอด”
ตรู๊ดดดด  ตรู๊ดดดด  ตรู๊ดดดด
ยังไม่ทันจะได้แยกย้าย  สายที่สองก็โทรมา  แต่ครั้งนี้เป็นสายจากโทรศัพท์ของชาติ  และพอเขาเห็นว่าเป็นใคร  ชาติก็ต้องทำมือจุ๊ปากให้เพื่อนเงียบพร้อมกับโชว์ชื่อที่ขึ้นมาให้ดูก่อนจะรับสาย
“ฮัลโหล  ฮัลโหลพี่ชาติ  ฮัลโหล!!!”
“...เออไอน้องว่างาย”ชาติแกล้งดัดเสียงให้เมากว่าปกติ  พูดอ้อแอ้ให้หนุ่มรุ่นน้อยปลายสายได้ยิน
“ยังอยู่กันมั้ยพี่  ผมเพิ่งเสร็จ”
“ช้าไปว่ะไอน้อง  พวกพี่แม่งวงแตกกันเมื่อกี้เอง  พอดีไอ้ต่อเมียมันตาม กลับบ้านเลยแยกไปหมดละ  คราวหน้าเว่ย”ชาติรีบพูดดักทางรุ่นน้องเอาไว้พร้อมกับพยักหน้าให้เพื่อนๆ  เป็นอันรู้กันว่าถ้ารุ่นน้องไปถามใครพรุ่งนี้เช้า  ทุกคนจะได้ตอบตรงกันหมด
“โอเคพี่  ไว้คราวหลังก็ได้  แค่นี้นะครับ”
ตู๊ด  ตู๊ด  ตู๊ด  ตู๊ด
“...โอเค  วางหูไปละ  กลับเว่ยกลับๆ  แยกย้าย  พรุ่งนี้ค่อยเจอกัน”ชาติไล่เพื่อน  ทั้งรู้สึกโล่งใจทั้งรู้สึกเป็นห่วงที่รุ่นน้องไม่มา  แต่ใครล่ะจะไปร่วมรับกรรมกับมันด้วยในเมื่อเขาก็ยังต้องทำงานหาเงินกับบริษัทนี้อยู่  เงินดีๆอย่างนี้ใครจะทิ้งไปทำที่อื่นได้ลง
“เออๆ  เจอกัน  ฝันดีผีหลอก”ต่อเอ่ยกวนตีนทิ้งท้ายด้วยอารมณ์ตลกร้าย  ก่อนจะออกจากห้องเพื่อนขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์คันเก่าขับออกไป
บนถนนหลวงที่มีรถขวักไขว่  มอเตอร์ไซค์ของต่อเร่งบิดสุดความสามารถเท่าที่จะทำได้เพื่อให้กลับไปถึงบ้านให้เร็วที่สุด
บ้านเขาเป็นห้องแถวเล็กๆเปิดเป็นร้านข้าวแกงอยู่ห่างจากบ้านของชาติและที่ทำงานพอสมควร  แต่ก็เลี่ยงไม่ได้  ห้องแถวนั้นเป็นทำเลทองในการขายของของเมียเขา  มันจึงไม่สามารถจะย้ายให้มาอยู่ใกล้บริษัทได้มากกว่านี้ 
แม้มิ้นจะชอบบอกให้เขาพาเพื่อนมาตั้งวงเหล้าที่บ้านด้วยความเป็นห่วงในความปลอดภัยของต่อแต่ห้องเช่าของชาติอยู่ใกล้บริษัทมากกว่า  รวมตัวง่ายกว่า  ทุกครั้งที่นัดรวมพลกันต่อเลยไม่เคยเอ่ยชวนเพื่อนสักครั้ง
ถึงห้องแถวของต่อจะอยู่ห่างบริษัท  เขาก็ยังพอมีเส้นทางลัดอยู่บ้าง  มันเป็นเส้นทางลัดทะลุซอยแห่งหนึ่งเพื่อไปโผล่บริเวณถนนใหญ่อีกเส้นซึ่งใกล้บ้านเขามากกว่า  แต่ด้วยเพราะเป็นซอยที่มีเหตุปล้นจี้บ่อยต่อจึงมักใช้มันแค่ในเวลาไปทำงานตอนเช้าเท่านั้น
ตรู๊ดดดด  ตรู๊ดดดดด  ตรู๊ดดดดด
โทรศัพท์มือถือที่สั่นอยู่ในกระเป๋าทำให้ต่อยิ่งร้อนใจ  รถบนถนนก็เยอะ  เมียก็โทรตามเร่งให้กลับ  จากที่ไม่คิดจะใช้ทางลัดเขาจึงจำใจต้องเบี่ยงซ้าย  ชะลอรถและเลี้ยวเข้าไปในซอยนั้นโดยหวังว่าจะได้ถึงบ้านเร็วๆ
ซอย มืดแสนเปลี่ยวมีเพียงแสงจากพระจันทร์เต็มดวงสาดส่องลงมาให้เห็นความสองข้าง ทางเป็นเงารางๆของเสาไฟฟ้าและซากระเกะระกะของขยะกับป่าหญ้ารกๆ  ต่อตาจ้องเป๋งไปยังแสงไฟถนนสุดซอยลิบๆ  มือกำแฮนด์บิดมันมากขึ้นอีกนิดหวังให้ผ่านจุดนี้ไปให้เร็วที่สุด
รถมอเตอร์ไซค์ขับมาถึงกลางซอยต่อก็เจอกับร่างเงาของคนผมเผ้ารุงรังเสื้อผ้าขาดวิ่นเดินอยู่ข้างทาง 
ในทันทีที่ต่อเห็นเขาก็แอบนึกขนลุกเสียวๆว่าซอยเปลี่ยวแห่งนี้มันจะมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า  แต่พอเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆเขาก็เห็นว่าเป็นเพียงคนเร่ร่อนที่ท่าทางสติไม่ค่อยจะดีนัก  ต่อจึงคิดจะบิดรถผ่านไปให้ไว
แต่ชายเร่ร่อนคนนั้นเมื่อเห็นว่าต่อกำลังขับเข้ามาใกล้  เขากลับออกตัววิ่งนำรถอย่างไวพร้อมกับตะโกนขอความช่วยเหลือ
“ช่วยหน่อยๆๆ  เจ็บๆ  ช่วยด้วย”ชายเร่ร่อนร้องออกมาเป็นคำที่ไม่ปะติดปะต่อกันเท่าไหร่นักพอให้จับใจความได้  แต่ ต่อที่กำลังรีบบวกกับความกลัวในเสียงเลื่องลือของการปล้นจี้ในซอยนี้ทำให้ ต่อไม่ยอมหยุดรถทั้งยังบิดเร่งเครื่องให้พุ่งทะยานผ่านไปไวกว่าเดิม
“ไอ้!!  ตายๆๆ”
ถ้อยคำที่ไม่ปะติดปะต่อกันดังไล่หลังมาติดๆเมื่อเห็นว่าต่อไม่คิดจะหยุดรถลงช่วยเหลือ  ถึงจะฟังไม่รู้เรื่องแต่ต่อก็รู้ว่าชายเร่ร่อนคงไม่ได้เปล่งวาจาออกมาด้วยความพอใจแน่
รถของต่อขับอย่างเร็วกระทั่งเกือบจะถึงปลายทางอยู่แล้วเมื่อจู่ๆก็มีแท็กซี่คันหนึ่งโผล่มาในระยะกระชั้นชิด
ด้วยความที่มอเอร์ไซค์เขาไม่ได้ชะลอความเร็วลงเลย  เมื่อเจอกับรถใหญ่มาบังทางออกจากซอยไว้แบบนี้ต่อจึงหักซ้ายสุดตัว  ทั้งรถทั้งคนพุ่งผ่านป่าหญ้าข้างทางตกลงไปยังคูน้ำสาธารณะอย่างจัง
โครม!!!
ต่อทั้งจุกทั้งปวดระบมไปหมดทั้งตัว  ภาพทุกอย่างพร่าเบลอไหววูบไปหมด  เขารู้สึกเลยว่าตัวเองขยับแขนขาไม่ได้เหมือนกับว่ามีอะไรสักอย่างหัก  ยังดีที่คูน้ำแห่งนี้มีน้ำไหลสูงแค่ข้อเท้า  เขาจึงไม่ได้เป็นอันตรายอะไรไปมากกว่านี้
“เป็นอะไรมั้ยครับ”
เสียงใครคนหนึ่งถามขึ้นพร้อมกับร่างเงารางๆค่อยๆโผล่พ้นยอดหญ้าสูงริมทางและเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
“ช่วยด้วย  ช่วยผม...”ต่อเอ่ยอย่างอ่อนแรง  พยายามเบิกตาให้กว้างเพื่อรวบรวมสติไม่ให้ตัวเองสลบ  แต่เขาก็ต้องตกใจกับภาพที่ค่อยๆชัดขึ้นทีละนิด
ชายที่เดินลุยหญ้าลงมาช่วยเขาแต่งชุดเครื่องแบบแท็กซี่  เสื้อสีฟ้าของเขามีคราบเกรอะกรังไปด้วยอะไรบางอย่างสีคล้ำ  ไม่เพียงเท่านั้นใบหน้าของชายคนนั้นยังมีเลือดสดๆไหลนองเต็มไปหมด
ต่อพูดอะไรไม่ออกได้แต่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ  ชายคนนั้นก็ยิ่งเดินเข้ามาเรื่อยๆจนถึงตัวเขาและก้มลงมาช้าๆเอื้อมมือมาจับไหล่เขาไว้เหมือนกำลังจะช่วยพยุง  แต่นั่นกลับทำให้คอของชายคนนั้นโน้มพับลงมาข้างหน้าราวกับไม่มีกระดูก  จากนั้นก็ล้นฟุบลงข้างๆ 
“ขอโทษนะที่ช่วยไม่ได้  ผมก็ตายตรงนี้เหมือนกัน”