แสงไฟสีลิบๆแดงท้ายรถมอเตอร์ไซค์คันหน้าเด่นชัดอยู่ในสายตาโก้
มันเป็นแสงไฟจากรถของต่อนั่นเองที่โก้ขับตามอยู่
แม้บ้านของโก้จะทางเดียวกับต่อแต่เขาก็ต้องถึงบ้านก่อน
อีกทั้งต่อยังขับเร็วราวกับพายุทำให้ทั้งสองอยู่ห่างไกลกันมาก
โก้ก็ได้แต่มองไฟท้ายของเพื่อนแล้วนึกยิ้มๆที่มันกลัวเมียถึงขนาดต้องวิ่งจี๋กลับบ้านเร็วขนาดนี้
“ท่าทางจะเป็นเอามากนะมึงเนี่ย ฮ่ะๆๆ...อ่าวเฮ่ย!!
เชี่ยละไงเลี้ยวเข้าซอยนั้นทำไมล่ะวะ”โกอุทานออกมาทันทีเมื่อเห็นไฟหน้ารถเพื่อนเบี่ยงซ้ายเลี้ยวหายเข้าไปในซอยมืดๆ
โก้รู้ว่ามันเป็นเป็นทางลัดกลับบ้านเพื่อนแต่ซอยนี้โจรก็ชุมอีกทั้งเรื่องที่เกิดเมื่อสองสามวันก่อนอีก
โก้ได้รู้จากลูกน้องในที่ทำงานมาว่าเพิ่งจะมีข่าวรถแท็กซี่ชนคนเร่ร่อนไปเมื่อสามวันก่อน ไม่รอดทั้งคู่
ลูกน้องเขาเล่าว่าเหตุเกิดเพราะคนเร่ร่อนเดินไปบังเลนแท็กซี่ รถแท็กซี่จึงหักรถออกขวาสุดตัวด้วยความตกใจทำให้รถบรรทุกที่กำลังจะแซงอยู่เลนขวาพุ่งชนหน้ารถแท็กซี่จนหน้าสะบัดอย่างแรงกลับไปชนกับคนเร่ร่อนตายคาที่ ส่วนรถแท็กซี่คงโดนแรงอัดกระแทกมหาศาลจากรถบรรทุก ประตูฝั่งคนขับจึงยุบเข้าไป ส่วนคนขับแท็กซี่คอหักตายติดอยู่ในรถนั่นเอง
“เรื่องของมึงนะเว่ยต่อ กูไม่ยุ่งล่ะ”โก้เอ่ยกลัวๆ ถึงเขาจะห้าวเป้งแค่ไหนก็ยังกลัวผีจับใจ
การจะให้เข้าไปตามเพื่อนทั้งที่รู้ว่าซอยนั้นเพิ่งจะมีคนตายคงไม่ใช่อะไรที่เขาอยากจะทำนัก
รถมอเตอร์ไซค์ค่อยๆทรงตัวมาจอดช้าๆในโรงจอดรถของห้องแถวซอมซ่อแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่พำนักของโก้
ห้องแถวแห่งนี้เป็นห้องชั้นเดียวเป็นแถวยาวติดกัน
5
ห้อง โดยห้องโก้อยู่เกือบริมสุด
ภายในห้องของเขาก็ไม่ได้มีอะไรมาก หากเปิดประตูหน้าเข้าไปจะเป็นแค่ห้องโล่งๆมีเพียงเสื่อหมอนพัดลมแค่นั้น มีห้องน้ำเล็กๆในตัวอยู่มุมซ้ายของห้อง ถัดจากห้องน้ำเป็นประตูหลัง เมื่อเปิดออกไปเป็นส่วนซักล้างซึ่งเป็นพื้นต่างระดับต่ำลงไปจากพื้นห้องพอสมควร ไว้สำหรับซักผ้าตากผ้าโดยมีอิฐบล็อคก่อกั้นระหว่างแต่ละห้องห้องสูงราวๆคอ
มันไม่ได้ปลอดภัยอะไรนักแต่ก็ยังดีที่ป้าข้างห้องเขาเป็นคนน่ารักคอยสอดส่องดูแลกันตลอด
ชายโสดตัวคนเดียวที่ต้องหาเงินเลี้ยงที่บ้านอย่างเขาไม่ต้องการอยู่สบายเท่าไหร่นัก แค่เพียงมีที่ซุกหัวนอนถูกๆ มีข้าวกินสามมื้อ มีเงินเยอะๆไว้ส่งให้ที่บ้านเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
“อ้าวโก้กลับมาแล้วเหรอ วันนี้กลับช้านะ”ยายมาลีเจ้าของห้องที่อยู่ติดกับเขาเอ่ยทัก ในมือถือถุงขยะเตรียมไปทิ้ง
“มีสังสรรค์นิดหน่อยครับยาย มาๆยายผมช่วย”โก้ตรงเข้าไปช่วยถือถุงขยะไปทิ้งอย่างมีน้ำใจ
จริงๆเขาก็สงสารแกด้วยที่แกต้องมาอยู่ตัวคนเดียวเพราะลูกชายหัวแก้วหัวแหวนไปติดผู้หญิงจนไม่ยอมกลับบ้านกลับช่องมาเป็นสิบปีแล้ว
ยังดีที่แกเป็นข้าราชการเก่าจึงมีเงินบำนาญนิดหน่อยให้พอจุนเจือใช้จ่ายค่าเช่าห้องได้ ทรัพย์สินของมีค่าก็ไม่มีเพราะยกให้ลูกไปหมดแล้ว เขาจึงอยากช่วยเหลืออะไรก็ตามที่ช่วยแกได้
“อย่าเมาไม่รู้เรื่องแล้วขับรถล่ะมันอันตรายรู้มั้ย”
“แหะๆๆ ครับยาย
แค่กินกับเพื่อนนิดๆหน่อยๆน่ะครับไม่ได้กินอะไรเยอะแยะ ยายไม่ต้องห่วงหรอก”
“ที่ยายเตือนเพราะเห็นโก้เป็นเหมือนลูกเหมือนหลานนะรู้มั้ย”
“แหะๆ”โก้ยิ้มแห้งๆ
จริงๆเขาก็นับถือยายมาลีเป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งนั่นแหละพอมาเจอคำดุแบบนี้เขาจึงค่อนข้างจะเกรงใจเป็นธรรมดา
“เพื่อนชวนน่ะครับผมก็ขัดไม่ได้
ว่าแต่ช่วงนี้ร้อนนะครับ
เห็นข่าวเขาว่าคนเป็นโรคลมร้อนกันบ่อยน่ะ”
“ยายสบายอยู่แล้วลูก อยู่ลำบากมาตั้งแต่เด็ก โก้ไม่ต้องห่วงยายหรอก”
“...พูดถึงเรื่องลำบาก เดี๋ยวนี้ของอะไรก็แพงไปหมดเลยนะครับยาย ค่าข้าวเอย
ค่าน้ำมันเอย
ไหนจะค่าโน่นค่านี่อีก
แต่ละอย่างราคาขึ้นเอาๆไปหมด
ไม่รู้ต่อไปจนๆอย่างผมนี่จะอยู่รอดมั้ย
ดีไม่ดีคงต้องหนีกลับต่างจังหวัดไปอยู่บ้านแน่เลย”
“เอาน่ะโก้ ไม่ว่าอะไรจะขึ้นจะลงเราก็ต้องอยู่ให้ได้นะลูก อย่าไปท้อ
ดูยายสิตัวคนเดียวไม่ค่อยมีเงินมีทองอะไรเท่าไหร่ยังอยู่ได้เลย คนเราน่ะชีวิตยังไม่สิ้นต้องดิ้นกันไปนะ”
“ฮ่ะๆๆ เรื่องสู้ผมรับรองเลยว่าไม่แพ้ใครแน่ๆยาย”
“เอ้อ!! จะว่าไปยายทำแกงเอาไว้หม้อใหญ่เลย โก้แบ่งไปกินบ้างสิลูก ประหยัดๆค่าข้าว”
“โห! ไม่ดีกว่าครับ ยายเก็บไว้กินจะดีกว่า ผมยังหาเงินหาทองได้ยังไงผมก็ซื้อกินได้ไม่ต้องห่วงผมหรอกยาย”
“เอาน่ะ ยายทำเผื่อโก้ด้วยนั่นแหละ ไม่รับของจากผู้ใหญ่เสียมารยาทนะ”ยายมาลีเอ่ยดักคอไม่ให้ชายหนุ่มได้ปฏิเสธ โก้จึงยิ้มรับน้ำใจของยายแต่โดยดี
“งั้นเดี๋ยวผมไปเอาถ้วยมาให้นะครับ”
“ไม่ต้องๆ โก้ไปอาบน้ำอาบท่าเถอะลูก เดี๋ยวยายตักแบ่งใส่หม้อเล็กไปให้ เหนื่อยมาทั้งวันแล้วนี่ ไปๆๆๆ”ยายมาลีไล่เขาก่อนจะเข้าห้องตัวเองไป โก้จึงต้องตามใจคนแก่ เข้าห้องไปอาบน้ำอาบท่าให้สบายเนื้อสบายตัวและจัดสำรับอาหารรอรับลาภปากอยู่ในห้อง
ก๊อกๆๆ
“โก้เปิดประตูหน่อยลูก”
“ครับๆ”ชายหนุ่มรีบเปิดประตูพร้อมกับจับยกหม้อแกงกะทิในมือยายไม่ให้ต้องถือนาน
“ยายมาเรียกให้ผมไปเอาก็ได้ครับ
แค่นี้ผมก็เกรงใจจะแย่แล้ว”
“เอาน่ะ รับๆไปเถอะ
แล้วมีข้าวรึยังล่ะเนี่ย”
“มีแล้วครับๆ ยายมากินด้วยกันสิครับ”โก้ชวน
“ยายกินแล้วล่ะ โก้กินเถอะ
แบ่งๆกันอิ่ม”ยายมาลียิ้มให้ชายหนุ่มด้วยความเอ็นดูก่อนจะโบกมือไล่ให้เขาเข้าห้องแล้วเดินกลับห้องตัวเองไป
การกินอาหารหลังจากได้ดื่มเรียกน้ำย่อยกับเพื่อนเป็นอะไรที่ทำให้เจริญอาหารเป็นอย่างมาก แกงกะทิของยายเมื่อได้กินกับผักต้มจิ้มน้ำพริกที่เหลือค้างอยู่ในสำรับข้าวก็ยิ่งเพิ่มความอร่อยและเพิ่มความอยากอาหารมากขึ้นอีก หมูในแกงกะทิก็แสนจะเนื้อแน่นเหนียวราวกับเนื้อหมูป่ายิ่งเคี้ยวก็ยิ่งมัน เพียงไม่นานโก้จึงกินทั้งแกงทั้งข้าวจนเกลี้ยงหม้อ
“โอยยย ลาภปากๆ
อิ่มจุกๆเลยจริงๆ พรุ่งนี้ค่อยหาอะไรมาให้ยากินบ้างดีกว่า”เขาเอ่ย จัดการเก็บถ้วยชามออกไปล้างหลังบ้าน
สิ่งแรกเมื่อเขาเปิดประตูหลังบ้านออกมาเลยคือกลิ่นแปลกๆ
มันเป็นกลิ่นตุๆเหมือนเนื้อค้างคืน ไม่ใช่กลิ่นที่รุนแรงอะไรมากแต่มันก็มากพอให้ชวนสงสัย
“...”โก้หันซ้ายหันขวาหาที่มาของกลิ่น และก็พอจะจับทิศทางได้ว่ามาจากห้องริมสุด ห้องของยายมาลีนั่นเอง
ด้วยความที่เขาสนิทกับเจ้าของห้องจึงลองชะโงกหน้าผ่านกำแพงอิฐบล็อคเข้าไปสำรวจความเรียบร้อย และนั่นทำให้ชายหนุ่มถึงกับช็อค
แสงนวลผ่องสว่างจ้าจากพระจันทร์ที่เต็มดวงส่องลอดชายคากันสาดมาให้พอได้เห็นร่างของยายมาลีนอนหงาย หัวพาดอยู่กับพื้นต่างระดับระหว่างส่วนซักล้างกับพื้นห้องโดยมีผ้าเช็ดเท้าไหมพรมผืนหนารองอยู่
“เฮ่ย!ยาย!”เขาอุทานลั่น
ทิ้งทุกอย่างในมือลงกับพื้นรีบวิ่งอ้อมเข้าห้องไปดูยายด้วยความตกใจ และเมื่อเขาอุ้มร่างที่แน่นิ่งขึ้นก็ต้องขนลุกซู่
ร่างนี้แข็งทื่อและเย็นเฉียบ
ดวงตาปรือเหมือนคนไร้สติแต่ไม่มีลมหายใจบ่งบอกถึงสัญญาณความมีชีวิตเลยแม้แต่น้อย
“ยาย! ยาย!!ๆๆ”โก้พยายามเขย่าตัวหญิงชราจนคนข้างห้องโผล่มาดูด้วยความสงสัย
“พี่ๆ!
เรียกหมอมาให้ผมที
ยายเป็นอะไรก็ไม่รู้!!!”
จากนั้นไม่นานทั้งหมอทั้งตำรวจก็มารายล้อมที่เกิดเหตุเต็มไปหมด
โก้ถูกตำรวจเรียกตัวให้ปากคำเนื่องจากเขาเป็นผู้พบศพและได้คุยกับผู้ตายเป็นคนสุดท้าย
“...คุณมาถึงก็พบผู้ตายออกไปทิ้งขยะเลยงั้นเหรอครับ”
“ใช่ครับ แกยังชวนให้กินแกงของแกอยู่เลยครับคุณตำรวจ”
“...คุณดื่มหรือเสพอะไรมามั้ยครับ”
“ดื่มมานิดหน่อยกับเพื่อนน่ะครับ แต่ผมไม่ได้เมานะคุณตำรวจ คุณคิดว่าผมฆ่ายายมาลีเหรอ ผมกับยายสนิทกันมากนะครับใครก็รู้ ถามคนที่นี่ดูได้เลย”
“เปล่าๆ ใจเย็นๆครับคุณ คือหมอที่มาชัณสูตรเขาให้ข้อมูลผมมาแล้วว่าคุณยายน่าจะเสียชีวิตมาได้ครึ่งวันแล้วนะ”
“...คุณว่าไงนะ”
“คุณยายตัวเย็นหมดแล้ว สภาพศพก็แข็งแล้ว ถึงอากาศร้อนจะเร่งให้ศพอยู่ในช่วงแข็งตัวและอ่อนตัวเร็วขึ้นแต่อย่างน้อยคุณยายก็ต้องเสียชีวิตตั้งแต่บ่ายโมงถึงบ่ายสาม คุณไม่มีทางเจอคุณยายได้หรอกครับ”
“...แล้วที่ผมเจอมันคืออะไรล่ะคุณตำรวจ”โก้เอ่ยเสียงสั่น รู้สึกงวยงงไปหมดกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกอย่างมันเป็นเรื่องที่เขาไม่มีทางเมาแล้วฟุ้งซ่านขึ้นมาได้แน่
ใครมันจะคุยคนเดียวเป็นวรรคเป็นเวรแล้วยังทั้งหิ้วถุงขยะกับแกงนั่นอีกล่ะ
“ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่าคุณเจออะไรแต่ผมก็เอาเรื่องนี้ไปเขียนในรายงานไม่ได้แน่ๆ...”
“หือ!!! หมวดครับหมวด!!”เสียงเรียกจากตำรวจนายหนึ่งขัดจังหวะขึ้นเมื่อเปิดตู้เย็นออก เขาผงะเอามือปิดปากในทันทีก่อนจะถอยออกห่างและพูดต่อ
“ศพแมวเต็มช่องฟรีสเลยครับหมวด”
ถึงจะเห็นไม่ชัดแต่โก้ก็ยังเห็นว่ามีศพสัตว์สี่เท้าตัวเล็กๆถูกถอนขนจนเกลี้ยงเป็นสีเนื้อเนียนทั้งตัว ท้องก็มีรอยแผลผ่าเปิดโดยไร้ซึ่นเครื่องในอยู่ในนั้น
“...อึก!! แหวะ!! โอ๊กกกกกกก”เขาโก่งคออ้วกออกมาตรงนั้นทันทีเมื่อนึกถึงแกงที่ยายเอามาให้กิน
...ไม่เอาอีกแล้วทั้งห้องเช่านี่ทั้งเพื่อนบ้านที่แสนดี จากนี้เพื่อนบ้านคงเป็นผีอาหารรสดีก็เป็นแกงแมว กูไม่อยู่แล้วจะออกมันซะคืนนี้แหละ!!!